เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เทคโนโลยีเพื่อการปฏิรูปการศึกษาโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เมื่อกล่าวถึงการปฏิรูปการเรียนรู้ นับเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปการศึกษา เพราะกระบวนการที่สำคัญที่สุดของการศึกษา คือ กระบวนการเรียนรู้ การสอนให้เด็กได้เรียนรู้วิธีการเรียนรู้ จนเขาสามารถสรุปเป็นความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นได้ เป็นการพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเอง คือ การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน ดังนั้น ความสำเร็จของการจัดการศึกษาอยู่ที่ผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งผมคิดว่าเป็นการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญนั่นเองกระแสแห่งการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญของไทยในยุคแห่งความเป็นโลกาภิวัฒน์ (Globalization) โดยเฉพาะในด้านการจัดการศึกษาเพื่อการกำหนดยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ให้ก้าวทันสังคมโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนั้น คือกระแสของ “การปฏิรูปการศึกษา (Educational Reform)” นั่นเอง ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการปรับรื้อระบบบริหารจัดการด้านการศึกษาครั้งสำคัญของสังคมไทย เป็นยุทธศาสตร์ทางภูมิปัญญาเพื่อการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของระบบการศึกษาของชาติให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ทางสังคมที่หลากหลายและรุนแรง สามารถพัฒนาการศึกษาให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงในสังคมโลกในปัจจุบัน การแก้ไขปัญหาด้านการศึกษาที่หมักหมมมานานจำเป็นต้องใช้หลักการและวิธีการใหม่ๆ จึงจะแก้ไขได้สำเร็จ จากการศึกษาวิเคราะห์ของสำนักงานปฏิรูปการศึกษา (สปศ.) เกี่ยวกับปัญหาการจัดการศึกษาไทย ที่ผ่านมา จะพบปัญหาสำคัญ 6 เรื่อง สรุปได้ ดังต่อไป
การใช้เทคโนโลยีเพื่อการปฏิรูปการศึกษา สื่อและเทคโนโลยีเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับและทุกระบบของการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบโรงเรียน นอกระบบโรงเรียน และการศึกษาตามอัธยาศัยที่ปรากฏในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ในหลายหมวดและหลายมาตราด้วยกัน และที่สำคัญ การปฏิรูปการศึกษานั้นต้องมุ่งเน้นที่ตัวผู้เรียนเป็นสำคัญให้เกิดการพัฒนาตามศักยภาพความแตกต่างของผู้เรียนแต่ละบุคคล ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวดที่ 9 ได้กล่าวถึงเรื่องเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (มาตรา 63-69) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของการใช้เทคโนโลยีเพื่อปฏิรูปการศึกษาในรูปแบบใหม่ที่มีความครอบคลุม กว้างขวาง และมีความเป็นเอกภาพ ทั้งการสนับสนุนปัจจัยพื้นฐาน การจัดตั้งกองทุน การสร้างมาตรฐานทางเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการปรับใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อปฏิรูปการเรียนรู้ของผู้เรียนให้บังเกิดประสิทธิภาพสูงสุด กล่าวกันว่าการปฏิรูปเทคโนโลยีเพื่อการศึกษานั้นจะต้องเป็นกระบวนการที่ดำเนินไปอย่างเป็นระบบขั้นตอนมีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน ครอบคลุมกระบวนการจัดการศึกษาทั้งระบบ การปฏิรูปเทคโนโลยีการศึกษาทั้งระบบสามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้
บรรณานุกรม
www.thaipresentation.com www.moe.go.th www.jananet.com www.mis.moe.go.th ฉัตรชัย มณีนาค อาจารย์ 2 ระดับ 5 โรงเรียนบ้านป่ากั้งวิทยา สำนักงานประถมศึกษาอำเภอท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ |
แหล่งอ้างอิง : วารสารวิชาการ โดยกรมวิชาการ
โดย : นาย ฉัตรชัย มณีนาค, ร.ร. ป่ากั้งวิทยา, วันที่ 5 มกราคม 2546
รู้จัก Education 3.0 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษายุคใหม่ |
เขียนโดย Moderator |
วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2009 เวลา 21:09 น. |
ขณะนี้แนวคิดและเทคโนโลยีที่สนับสนุนการใช้งาน Web 2.0 กำลังได้รับความสนใจในวงกว้าง และมีการคาดการณ์ของวงการศึกษาในระดับโลกว่า รูปแบบการเรียนการสอน การจัดหลักสูตร และการบริหารจัดการการศึกษา รวมทั้งงานวิจัยจะต้องมีการผลิกผันเปลี่ยนโฉมไปอย่างมากในอนาคต ตัวอย่างที่สำคัญและชัดเจนก็คือ การจัดการเรียนการสอน ได้เปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิมที่อาจารย์จะเป็นต้นตอความรู้เพียงหนึ่งเดียว แต่ปัจจุบัน อาจารย์ กลายมาเป็น ผู้ประสานและกำหนดทิศทางของความรู้ที่ได้จากการเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ต่างๆ เช่น หนังสือเรียน ห้องสมุด ข้อมูลชุมชน สื่อสารมวลชน ฐานข้อมูลออนไลน์ไปจนถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้บริหารไอทีในสถานศึกษา หน่วยงานรัฐ ตลอดจนนักวิจัย และครูอาจารย์ในอนาคตจำเป็นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในพื้นฐานทางเทคโนโลยีปัจจุบัน ที่มีผลต่อสภาพแวดล้อมทางการศึกษา แนวคิดและรูปแบบใหม่นี้จะเรียกว่า Education 3.0 โดยมีพื้นฐานมาจาก แนวคิด Web 2.0 ที่ปรับใช้เทคโนโลยีในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาและมีแนวโน้มเน้นหนักไปที่การสนับสนุนการทำงานร่วมกันในแบบออนไลน์ การแบ่งความรู้ร่วมกันในกลุ่มผู้เรียน โดยขณะนี้มีความพร้อมและการเติบโตมากับเทคโนโลยีเครือข่ายอย่างระบบอินเทอร์เน็ต ที่กลุ่มผู้เรียนมีความพร้อมในเทคโนโลยีดังกล่าว และกำลังเรียกร้องการเรียนที่ตอบสนองต่อการใช้งานผ่านเครือข่ายเน็ตเวิร์กมากขึ้น สำหรับ Education 3.0 คือ แนวคิดทางการเรียนรู้ใหม่ล่าสุดที่ทั้งสถาบันการศึกษาและผู้เรียนสามารถเชื่อมต่อถึงกันอย่างซับซ้อนผ่านเครือข่ายเน็ตเวิร์กได้จากทุกสถานที่ในทุกเวลา ในขณะที่เทคโนโลยีการเรียนรู้แบบต่างๆ ทั้งการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ตลอดจนการเรียนรู้เทคโนโลยีเสมือนจริง (Immersive Learning) จะก้าวเข้ามามีบทบาทในการประสานกระบวนการเรียน การสอนในสถาบันการศึกษาจริงและการเรียนรู้ทางไกลทั้งในปัจจุบันและอนาคต การเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง เป็นแนวคิดใหม่ที่ท้าทายการเรียนการสอนแบบออนไลน์ โดยการจำลองสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ลักษณะเกือบเหมือนจริงทุกอย่าง เช่น ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมทดลองในห้องแล็บของสถานศึกษาจริง แต่ผู้เรียนอยู่คนละสถานที่รวมทั้งเลือกวันเวลาที่จะเข้ามามีส่วนร่วมได้สะดวกในลักษณะออนดีมานด์ โดยแนวคิดที่กำลังพัฒนาขึ้นนี้จะช่วยลดช่องว่างของการเรียนการสอนออนไลน์แบบเดิมที่ผู้เรียนไม่ได้มีส่วนร่วมกับหลักสูตรเท่าที่ควร นายแอนดรูว์ ลิม ผู้อำนวยการส่วนงานขายภาครัฐ การศึกษา และสาธารณสุข ประจำพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ กล่าวว่า ซัน กำลังมุ่งเน้นซอฟต์แวร์ Education 3.0 ไปที่วงการศึกษา เนื่องจากในขณะนี้การศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่ในตำราและสถานศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่สามารถที่จะหาข้อมูลและเชื่อมต่อประสานกันในการเรียนรู้ผ่านซอฟต์แวร์ Education 3.0 ที่เชื่อมโยงประสานระหว่างสถานศึกษา และชุมชนของการเรียนรู้ ตลอดจนตัวผู้เรียนเอง โดยผ่านเน็ตเวิร์กและทูลแบบโอเพ่นซอร์สการเรียนการสอนผ่านเว็บ และคอนเทนต์เนื้อหารายวิชาแบบเปิดกว้างแต่มีการจัดการอย่างเป็นระบบ ผอ.ส่วนงานขายภาครัฐ การศึกษา และสาธารณสุข บริษัท ซันฯ กล่าวต่อว่า ซัน จึงคิดค้นและออกแบบซอฟต์แวร์ Education 3.0เพื่อผลักดันให้มีการใช้งานไปยังสถาบันทางการศึกษาทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยให้มีความพร้อมปรับใช้งานกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและรูปแบบการให้บริการที่จะเปลี่ยนไป โดยซัน ได้ฝึกอบรมวิธีการใช้งานระบบกับตัวแทนนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ไปแล้ว 500 คนทั่วโลก เพื่อให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม สามารถนำโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ นำไปปรับกับใช้ในสถาบันการศึกษาของตน และในขณะนี้ซัน มีศูนย์เฉพาะทางที่คอยให้ความรู้อบรมถึง 80 ศูนย์ ส่วนในระยะแรกนี้ทางบริษัทฯตั้งเป้าตั้งแต่ก.ค.51-ก.ค.52 จะมีนักศึกษาประมาณ 5 แสนคนที่ใช้เทคโนโลยีของบริษัท “ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ผู้บริหารไอมีในสถาานศึกษา หน่วยงานรัฐ ตลอดจนนักวิจัย และครูอาจารย์ในอนาคตจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในพื้นฐานทางเทคโนโลยี ที่มีผลต่อสภาพแวดล้อมทางการศึกษา แนวคิดและรูปแบบใหม่ และปรับใช้เทคโนโลยีทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาและมีแนวโน้มเน้นไปที่การสนับสนุนการทำงานร่วมกันในแบบออนไลน์ การแชร์ความรู้ร่วมกันหมู่ที่เรียน“ นายแอนดรูว์ กล่าว ด้าน ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซอฟต์แวร์ บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวคิดในการเรียนการสอนในขณะนี้และอนาคตได้เปลี่ยนไป ในขณะนี้สถานศึกษาทั่วโลกตั้งแต่ระดับโรงเรียนจนถึงระดับอุดมศึกษากำลังเร่งปรับตัวรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โดยทุกสถาบันต้องรับมือกับบริการต่างๆ ที่ต้องบริการให้กับผู้เรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกที่ทุกเวลา รวมถึงในเรื่องของคอนเทนต์ออนไลน์และเนื้อหาประกอบการเรียนการสอนที่เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและความหลากหลาย ที่มีตั้งแต่ข้อความตัวอักษร ไปจนถึงภาพเคลื่อนไหว หรือ วีดีโอ ตลอดจนเทคโนโลยีการเรียนรู้แบบเสมือนจริง อื่นๆ ที่ต้องใช้ระบบไอทีแบบโอเพ่นซอร์สที่ยืดหยุ่นและประหยัดในการใช้งานมากกว่าระบบเดิมมาสนับสนุน “ซันมีประสบการณ์มากมายในการสนับสนุนโซลูชันไอทีให้กับแวดวงภาครัฐ การศึกษา และสาธารณสุข ได้ช่วยให้ซันพร้อมเสมอในการแบ่งปันวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ตลอดจนแชร์ประสบการณ์การนำไปปฏิบัติใช้จริงในสถานศึกษาชั้นนำทั่วโลกที่เป็นลูกค้าผู้ใช้งานนับตั้งแต่ระบบเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ ซอฟต์แวร์ และเซอร์วิสต่างๆ โดยพร้อมนำเสนอโซลูชันที่นำสมัยที่จะมาเตรียมความพร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุค Education 3.0 และช่วยแก้ไขปัญหาให้กับแวดวงการศึกษา รวมไปถึงนโยบายอื่นๆ ด้านหน่วยงานภาครัฐและสาธารณสุขของประเทศไทย เพื่อแสดงความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคตต่อไป” ผอ.ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซอฟต์แวร์ บ.ซันฯ กล่าว คงเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า สถาบันการศึกษา ในทุกระดับกำลังให้ความสำคัญและหันความสนใจมาที่ตัวเทคโนโลยีเหล่านี้ แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องขบคิดกันต่อไปคือ เทคโนโลยีใหม่ๆในด้านการศึกษานี้จะส่งผลอย่างไรต่อ การใช้งานของผู้เรียน งานสอน งานวิจัย ในด้านต่างๆ... บทความจาก : ไทยรัฐ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น